-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
เราสะสมความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคฟลูออโรพอลิเมอร์มาเกิน 20 ปี จนสามารถพัฒนาวิธีการเผาผนึกฟลูออโรพอลิเมอร์เฉพาะทางสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความกัดกร่อนสูงและความต้องการพิเศษต่าง ๆ ได้ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่เกิดซ้ำในงานอุตสาหกรรม เช่น การกัดกร่อน การสึกหรอ และความคงทนในสุญญากาศที่อุณหภูมิสูง เราพัฒนาวิธีการเผาผนึกสามแบบที่เสริมแรงด้วยชั้นตาข่ายเหล็กเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและอายุการใช้งาน
การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวิธีการเผาผนึกฟลูออโรพอลิเมอร์ เรียงตามประสิทธิภาพโดยรวมจากซ้ายไปขวา
| การเผาผนึกเคลือบฟลูออโรพอลิเมอร์ของเหลวบริสุทธิ์สูง (ชั้นบาง/หนา เสริมตาข่าย) (กระบวนการใหม่) | การเผาผนึกเคลือบฟลูออโรพอลิเมอร์ผงอัลตร้าบริสุทธิ์ (ชั้นบาง/หนา เสริมตาข่าย) (กระบวนการใหม่) | การเผาผนึกวัสดุเติมทั่วไป (ชั้นบาง/หนา เสริมตาข่าย) (กระบวนการใหม่) | การเผาผนึกฟลูออโรพอลิเมอร์ของเหลวบริสุทธิ์สูงแบบมาตรฐาน | การเผาผนึกฟลูออโรพอลิเมอร์ผงอัลตร้าบริสุทธิ์แบบมาตรฐาน | การเผาผนึกวัสดุเติมผงทั่วไปแบบมาตรฐาน | |
| อายุการใช้งาน | 15–20 ปี (จากการใช้งานจริง) | 10–15 ปี (จากการใช้งานจริง) | 3–5 ปี (จากการใช้งานจริง) | ปี (จากการใช้งานจริง) 1–3 | 1–3 ปี (จากการใช้งานจริง) | 0.5–3ปี (จากการใช้งานจริง) |
| การทดสอบประกายไฟ (ความต้านทานรูเข็ม) | มม. ทนไฟได้ถึง 30,000V 1.8–2.2 | มม. ทนไฟได้ถึง 25,000V 1.8–2.2 | มม. ทนไฟได้ถึง 20,000V 1.8–2.2 | 0.8–1.2 มม. ทนไฟได้ถึง 15,000V | 0.8–1.2 มม. ทนไฟได้ถึง 16,000V | 0.8–1.2 มม. ทนไฟได้ถึง 16,000V |
| ความทนทานในสุญญากาศที่อุณหภูมิสูง | ≥240°C คงตัวในสุญญากาศสูงสุด | ≥240°C คงตัวในสุญญากาศสูงสุด | ≥220°C คงตัวในสุญญากาศสูงสุด | ≥150°C คงตัวในสุญญากาศสูงสุด | ≥150°C คงตัวในสุญญากาศสูงสุด | ≥150°C คงตัวในสุญญากาศสูงสุด |
โครงสร้างตัดตามขวาง (จากบนลงล่าง)
- 1. ชั้นเคลือบผิว
- 2. ชั้นกลางหนา 0.8–1 มม.
- 3. ชั้นดูดซับกลางหนา 0.3 มม. (ป้องกันการซึมผ่านของกรดเหลวและก๊าซกรด)
- 4. ชั้นกลางหนา 0.8–1 มม.
- 5. ชั้นรองพื้นหนา 0.2 มม.
- 6. ตาข่ายเหล็ก
- 7. แผ่นโลหะ
- 1. ชั้นเคลือบผิว
- 2. ชั้นกลางหนา 0.8–1 มม.
- 3. ชั้นดูดซับกลางหนา 0.3 มม. (ป้องกันการซึมผ่านของกรดเหลวและก๊าซกรด)
- 4. ชั้นกลางหนา 0.8–1 มม.
- 5. ชั้นรองพื้นหนา 0.2 มม.
- 6. ตาข่ายเหล็ก
- 7. แผ่นโลหะ
- 1. ชั้นเคลือบผิว
- 2. ชั้นกลางหนา 0.8–1 มม.
- 3. ชั้นดูดซับกลางหนา 0.3 มม. (ป้องกันการซึมผ่านของกรดเหลวและก๊าซกรด)
- 4. ชั้นกลางหนา 0.8–1 มม.
- 5. ชั้นรองพื้นหนา 0.2 มม.
- 6. ตาข่ายเหล็ก
- 7. แผ่นโลหะ
ฟลูออโรพอลิเมอร์เผาผนึกเสริมแรงด้วยตาข่ายเหล็ก
ความหนาการเคลือบ: 1.8 mm ± 0.2 mm
- ข้อดี
ทนทานต่อสุญญากาศที่อุณหภูมิสูงถึง 240°C ได้อย่างมีเสถียรภาพ มีอายุการใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 20 ปี ทนต่อสารฮาโลเจน ด่าง การเสียดสี และแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่รุนแรงและมีความต้องการสูง - ข้อเสีย
ต้นทุนการผลิตสูง ใช้เวลาผลิตนาน และการถ่ายเทความร้อนผ่านระบบแจ็คเก็ตทำได้ไม่ดี
ฟลูออโรพอลิเมอร์เผาผนึกมาตรฐาน
ความหนาของการเคลือบ:0.8–1 mm
- ข้อดี
ข้อดีคือ วงจรการผลิตสั้น ต้นทุนการเคลือบป้องกันการกัดกร่อนต่ำ มีค่าการนำความร้อนอยู่ที่ 80%–85% ของเคลือบเคลือบฟัน และเหมาะสำหรับชิ้นส่วนที่มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอ - ข้อเสีย
มีอายุการใช้งานสั้น ทนต่อความเสียหายทางกลไกได้ไม่ดี และประสิทธิภาพไม่เสถียรเมื่อสัมผัสกับสารฮาโลเจนและสารละลายอินทรีย์ การบุฟลูออโรพอลิเมอร์มาตรฐาน
การบุฟลูออโรพอลิเมอร์มาตรฐาน
ความหนาของการบุ:2–4 mm
- ข้อดี
ต้นทุนการบุฟลูออโรพอลิเมอร์ต่ำ เหมาะสำหรับการบุหน้างานบนอุปกรณ์ขนาดใหญ่โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องความยาวหรือเส้นผ่านศูนย์กลาง มีความต้านทานทางเคมีได้กว้าง อายุการใช้งานยาวนาน ทนต่อการสึกหรอและแรงกระแทกได้ดี และสามารถบุได้อย่างไร้รอยต่อโดยไม่ต้องแบ่งส่วน - ข้อเสีย
มีความทนทานต่ออุณหภูมิจำกัด ทนต่อสุญญากาศได้ไม่ดี การถ่ายเทความร้อนในระบบแจ็คเก็ตมีประสิทธิภาพต่ำ และไม่เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีรูปร่างซับซ้อนมาก
บุแบบหมุนด้วย ETFE (F40) แบบหล่อครั้งเดียว
ความหนา: 2–3 mm
- ข้อดี
การให้ความร้อนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถหลอมขึ้นรูปได้ครั้งเดียวโดยไม่มีรอยต่อหรือข้อต่อ - ข้อเสีย
มีความต้านทานการกัดกร่อนระดับปานกลาง ทนสุญญากาศได้ไม่ดี การถ่ายเทความร้อนในระบบแจ็คเก็ตมีประสิทธิภาพต่ำ ไม่เหมาะกับรูปร่างที่ซับซ้อน มีค่าใช้จ่ายสูง และใช้เวลาการผลิตนาน
บุแบบหมุนด้วย F4 เสริมตาข่าย
ความหนา: 3.5 –5.5 mm
- ข้อดี
การให้ความร้อนอย่างสม่ำเสมอและกระบวนการหลอมรวมครั้งเดียว ทำให้ได้โครงสร้างที่ไร้รอยต่อ - ข้อเสีย
ไม่ทนทานต่อความดันลบที่เกิน 100°C การถ่ายเทความร้อนในอุปกรณ์ที่มีแจ็คเก็ตไม่ดี ไม่เหมาะกับชิ้นส่วนที่มีรูปร่างซับซ้อน มีต้นทุนสูงในการเคลือบหรือบุ และใช้เวลาการผลิตนาน
บุด้วยแผ่น PTFE พันรอบ
บุหนา: 3–5 mm
- ข้อดี
มีต้นทุนต่ำใน การบุป้องกันการกัดกร่อน มีระยะเวลาการผลิตสั้น และทนต่อการสึกหรอและแรงกระแทกได้ดี - ข้อเสีย
ต้องใช้การเชื่อมต่อแบบหน้าแปลนที่หัวบนและหัวล่าง ช่วงตรงจำกัดไม่เกิน 3 เมตร ทนต่อสุญญากาศและอุณหภูมิต่ำ มีแนวโน้มแยกชั้น และมีค่าการนำความร้อนต่ำ รวมทั้งไม่เหมาะกับโครงสร้างที่ไม่เรียบหรือรูปร่างซับซ้อน
อ้างอิงจากสภาพการใช้งานของอุปกรณ์อุตสาหกรรมจริง เรามีตัวเลือกความหนาของการเคลือบฟลูออโรพอลิเมอร์แบบผงบริสุทธิ์สูงที่ผ่านกระบวนการเผาผนึกสองแบบ แบบมาตรฐานมีช่วงความหนาทั่วไป ส่วนแบบพัฒนาพิเศษมอบความทนทานและการป้องกันการกัดกร่อนที่เพิ่มขึ้น
ทั้งสองแบบนี้สามารถใช้ได้ในสุญญากาศสูง (สูงสุด -0.1 MPa) และอุณหภูมิตั้งแต่ -190°C ถึง 260°C
| ประเภทการเคลือบแบบเสริมตาข่าย | การเคลือบแบบเสริมแรงด้วยตาข่ายเหล็กแบบพัฒนาพิเศษ | |||
| ความหนา | 0.8mm~1.2mm | ความหนา | 1.8mm~2.2mm | |
| การใช้งาน | เหมาะสำหรับอุปกรณ์เคมีทั่วไปที่เน้นประหยัดต้นทุน | การใช้งาน | เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมรุนแรง เช่น อุปกรณ์อายุสั้น หรือของเหลว/ก๊าซกัดกร่อน (เช่น ถังชุบโลหะ โลหะ G20 กรดไฮโดรคลอริก ฯลฯ) | |
การเปรียบเทียบคุณสมบัติกระบวนการใหม่กับแบบดั้งเดิม
| กระบวนการใหม่ | กระบวนการดั้มเดิม | |
| การเปรียบเทียบความต้านทานการกัดกร่อนและการซึมผ่าน วิเคราะห์โดยใช้เครื่องทดสอบการกัดกร่อน Atlas Cell เงื่อนไขการทดสอบ: กรดไฮโดรคลอริก 20% (HCl), อุณหภูมิ 220°C, ระยะเวลา 668 ชั่วโมง |
 |
 |
| การเปรียบเทียบการกระจายตัวของโมเลกุลบนพื้นผิว ภาพขยายด้วยกล้องจุลทรรศน์ของฟลูออโรพอลิเมอร์บริสุทธิ์สูงเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ |
 |
 |
การบุแบบดั้งเดิมอาศัยการยึดด้วยกาว ซึ่งจำกัดความทนทานต่ออุณหภูมิไว้ที่ประมาณ 150°C ความร้อนที่สูงเกินไปอาจทำให้กาวติดไฟหรือละลาย ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมต่างๆ ในทางกลับกัน กระบวนการยิงเลเซอร์เชื่อมรีเวทของเราช่วยให้ทนต่ออุณหภูมิสูงได้ถึง 260°C โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษ วิธีนี้สะอาดและยั่งยืนมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถดำเนินการติดตั้งได้หน้างาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น ห้องเก็บของบนเรือ และถังเก็บสารเคมีเข้มข้น ความยืดหยุ่นของวิธีนี้ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความทนทานสูงและอุปกรณ์ขนาดใหญ่รูปแบบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
